หอยทอด เป็นอาหารจีนชนิดหนึ่ง ประกอบด้วย แป้ง ไข่และหอย หอยทอด มี 2 ชนิด คือ แบบแป้งกรอบ และแบบแป้งนิ่ม แบบแป้งนิ่มนั่นใช้หอยนางรมผสมกับแป้ง เครื่องปรุงรส ทอดในกระทะที่ร้อนจัด ใส่ไข่ โดยแป้งที่ใช้เป็นแป้งใส เหนียว เสิร์ฟในกระทะร้อน พร้อมถั่วงอก และซอสพริก มีชื่อภาษาจีนแต้จิ๋วว่า ออส่วน แบบแป้งกรอบ ถ้าใช้หอยนางรม เรียกว่า ออลัวะ ถ้าใช้หอยแมลงภู่ เรียกว่า ไช่ลัวะ
แต่คนไทยส่วนใหญ่เข้าใจว่าเป็นอาหารไทย เหมือนอาหารจีนอีกหลาย ๆ ชนิดที่มาจากประเทศจีน แล้วนำมาปรับเปลี่ยนให้เข้ากับความชอบของคนไทย หอยทอดที่ทำขายในแต่ละท้องถิ่น และมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง
วัตถุดิบ
– หอยแมลงภู่ 15-20 ตัว
– ไข่ไก่ 1 ฟอง
– แป้งข้าวเจ้า 2 ช้อนโต๊ะ
– แป้งท้าวยายม่อม 1 ช้อนโต๊ะ
– แป้งทอดกรอบ 1 ช้อนโต๊ะ
– พริกไทยป่น ½ ช้อนชา
– เกลือ ½ ช้อนชา
– น้ำปูนใส 1 ช้อนโต๊ะ
– น้ำโซดาเย็นจัด 4-5 ช้อนโต๊ะ
– ต้นหอมซอยละเอียด 1 ต้น
– ผักชี สำหรับตกแต่ง
วิธีทํา
1. ทำแป้งหอยทอดโดยผสมแป้งมัน แป้งข้าวเจ้า และน้ำในอ่างผสม คนส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน (อย่าให้แป้งข้นเกินไปหากแป้งข้นให้ค่อยๆเติมน้ำลงไปให้แป้งที่ได้มีลักษณ์เคลือบนิ้วบางๆ ทดสอบโดยใช้นิ้วจุ่มลงในแป้งแล้วให้แป้งเคลือบนิ้วบางๆ) ใส่ต้นหอมซอยคนให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันอีกครั้ง พักไว้
2. เตรียมหอยแมลงภู่โดยทำความสะอาดหอยแมลงภู่ให้สะอาด ดึงขนออก ล้างอีกหลายๆน้ำจนน้ำใส แกะเนื้อหอยออกจากฝา ล้างด้วยน้ำอีกครั้ง ใส่ตะแกรง พักให้สะเด็ดน้ำ เตรียมไว้
3. ตั้งกระทะบนไฟกลาง ใส่น้ำมัน 2 ช้อนโต๊ะ คนแป้งให้เข้ากันก่อนตักแป้งที่ผสมไว้ 1 กระบวยลงทอด ให้เป็นแผ่น ใส่เนื้อหอยแมลงภู่ลงบนแป้ง ประมาณ 8 – 9 ตัว ทอดไปสักพักพอให้แป้งมีสีเหลืองเล็กน้อย พลิกกลับด้าน ตอกไข่ไก่ใส่ ใช้ตะหลิวเขี่ยไข่แดงให้แตก ตักน้ำมันที่เหลือราดให้ทั่ว ทอดให้แป้งอีกด้านสีเหลือง ใช้ตะหลิวยีให้แป้งออกเป็นชิ้นๆ ใส่ถั่วงอกและกุยช่าย ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำส้มสายชู น้ำตาล และพริกป่น ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง ปิดไฟ
4. ตักหอยทอดใส่จาน โรยพริกไทยป่นและผักชี เสิร์ฟนและผักชี เสิร์ฟ
คุณค่าทางโภชนาการของหอยแมลงภู่ (ต่อปริมาณ100กรัม ให้พลังงานประมาณ172กิโลแคลอรี)
– น้ำ 60.5 กรัม
– โปรตีน 24 กรัม
– คาร์โบไฮเดรต 7 กรัม
– ไขมัน 4.5 กรัม
– โพแทสเซียม 268 มิลลิกรัม
ประโยชน์ของหอยแมลงภู่ต่อสุขภาพ
เป็นแหล่งรวมแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายมากมายทั้งวิตามินบีรวม 1,2,3,5,6,12 ที่ช่วยป้องกันโรคต่างๆ อาทิเช่น โลหิตจาง โรคเหน็บชา ชาตามนิ้วมือนิ้วเท้า ทำให้ร่างกายไม่เกิดอาการอ่อนเพลีย ป้องกันโรคปากนกกระจอก ไมเกรน ลดการเกิดโรคมะเร็งหลอดอาหาร ช่วยทำลายสารพิษจากมลพิษ ควัน
ข้อควรระวังในการบริโภคหอยแมลงภู่
– โรคภูมิแพ้ หอยแมลงภู่เป็นสารก่อภูมิแพ้ชนิดหนึ่ง ดังนั้น ผู้ที่มีอาการแพ้หอยควรหลีกเลี่ยงการรับประทานหอยทุกชนิด เพื่อป้องกันอาการของโรคภูมิแพ้กำเริบ และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต
– อาจเสี่ยงในการปนเปื้อนเชื้อโรค ควรรับประทานหอยแมลงภู่ที่ผ่านการปรุงสุก เพื่อฆ่าเชื้อโรคที่ปนเปื้อนมากับหอย โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคตับ โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง โรคมะเร็ง
– อาจปนเปื้อนสารปรอท หอยแมลงภู่เป็นอาหารทะเลที่อาจมีการปนเปื้อนของสารปรอท จึงควรรับประทานไม่เกิน 340 กรัม/สัปดาห์ เพื่อป้องกันร่างกายได้รับสารปรอทมากเกินไป จนอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น หายใจลำบาก ปอดอักเสบ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย
ที่มา
ติดตามเรื่องราวดีๆได้ที่ anilta.net